Fiction นี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนการ
โปรดใช้วิจรณญาณในการอ่านงับป๋ม

Title - Slave Love...ทาสรัก
Author - Kapunoii Rate - PG15
Genre - Yaoi Pairing - Hae x Eun x Kyu
Type - Thailand fic Status - Ending




Ch.2 ความซวย...ที่มาแบบทั้งวัน


พรวดดด!!!

ตอนนี้ข้าวที่ผมเผลอปล่อยออกมาจากปากไปอยู่ที่หน้าซองมินเต็มๆ ส่วนคิบอมนั้นโชคดีหน่อยโดนแค่นิดๆ หน่อยๆ แต่ผมว่าคนที่จะโชคร้ายสุดคงหนีไม่พ้นผมใช่ไหมเนี้ย ไม่น่าเผลอพูดว่าไอ้พวกนั้นอยู่ด้านหลังผมเลยให้ตายสิ

“คุยกันจนสนุกเลยสิท่า งั้นพวกเราสองคนขอนั่งคุยด้วยแล้วกันเนอะ” เสียงที่มันลอดไรฟันมันทำให้ผมขนลุกเกรียวเลยทีเดียว ไวเท่าความคิดครับผมรีบลุกยืนขึ้นเพื่อจะหนีออกไปจากเจ้าสองตัวนี้ อยู่ใกล้ๆ ผมคงไม่ปลอดภัยแน่ๆ ก็เล่นนินทาระยะเผาขนเลยนี่หว่า


หมับ!!

“เอ่อ...” ผมพูดไม่ออกเลยครับ เมื่อไอ้ตัวที่ชอบกวนเท้าผมมันจับตึงที่ข้อมือผมอยู่ นี่กะจะไม่ให้ผุดให้เกิดกันเลยใช่ไหมเนี่ยยย ฮยอกแจอยากจะตาย

“จะรีบไปไหน นั่งกินข้าวกับพวกเราก่อนสิ” เป็นอีกคนที่พูดพร้อมกับกดไหล่ผมให้นั่งลงไปเหมือนเดิม ผมหันไปหาซองมินกับคิบอมก่อนเผื่อพวกนั้นจะช่วยพาผมหนีได้ แต่ผมคงคิดผิดเมื่อพวกนั้นก็ดูท่าจะโชคร้ายเหมือนผม

“พวกนายก็นั่งอยู่นี่ด้วยละ ห้ามลุกหนี!!” ผมเห็นซองมินพยักหน้ารับหงึกหงักจนคอแทบหัก แต่ผิดกับคิบอมที่เหมือนจะเดาสถานการณ์ได้หมด ก็มันเล่นนั่งนิ่งซะขนาดนั้นไม่รู้ว่ากลัวหรือเฉยๆ กันแน่

“เอาเป็นว่าพวกฉันจะแนะนำตัวเองให้นายได้รู้เอาไว้ชัดๆ ก็แล้วกันเนอะ” รอยยิ้มมารร้ายของไอ้คนด้านซ้ายมันยิ้มได้เหี้ยมเกรียมจริงๆ ให้ตายเหอะ

“ฉันทงเฮ อี ทงเฮ” ด้านซ้ายคือหมาบ้าทงเฮ ผมพยักหน้ารับรู้เล็กน้อยทั้งๆ ที่ความจริงอยากจะบอกว่าตูไปอยากรู้จักคุณมึงตอนไหนวะครับ

“ส่วนฉัน คยูฮยอน โจว คยูฮยอน...พวกเราสองคนเป็นพี่น้องกัน” คนขวาหมาป่าคยูฮยอนสินะ อื้อหือพี่น้องเชี่ยไร หน้าโครตจะไม่เหมือนกันเลยแถมคนละนามสกุลอีกให้ตายเหอะ ถึงหน้ากับนามสกุลจะไม่เหมือนแต่ผมก็พอจะเดาได้นะว่าพวกมันคงไม่ได้โกหกหรอก ก็ถึงหน้ากับนามสกุลจะไม่เหมือนแต่มีอย่างนึงที่โครตจะเหมือนกันเลย อยากรู้ละสิว่าอะไรก็สันดานไงครับหมาเหมือนกันทั้งคู่...อ่า...ฟินได้แอบด่าพวกมันสองคนในใจ

“นี่นายแอบด่าพวกเราสองคนอยู่ใช่ไหม” ทงเฮมันพูดขึ้นมาพร้อมกับบีบเข้าที่ต้นคอผมอย่างแรง พร่องตายเหอะมึงเป็นหมาไม่พอสงสัยดูดวงได้อีกทายแม่นชิบหาย แต่ตอนนี้ผมปวดที่คอไปหมดแล้วบีบไรแรงขนาดนั้นฟระ ไม่คิดว่าผมจะเจ็บมั้งเลยหรือไงเนี้ย

“เอิ่ม...ปะ...เปล่าเว้ย ยังไม่ได้ด่าไรเลย ปล่อยได้แล้วๆ” ผมตีไปทีแขนหมอนั้นเพื่อบ่งบอกว่าเจ็บอยู่พักนึง มันถึงละมือออกมาจากคอผม ปวดคอไปหมดให้ตายสิ

“ถ้าอยากอยู่ที่โรงเรียนนี้อย่างสงบสุข ก็ควรจะรู้ไว้ว่าต้องทำยังไง” เป็นคยูฮยอนที่พูดเตือนผม ผมพยักหน้ารับรู้กับคำพูดของหมอนั่น ถึงไม่บอกผมก็รู้ละนะว่าห้ามเข้าใกล้สองคนนี้ และผมก็ไม่คิดจะอยู่ใกล้ๆ อยู่แล้วด้วยละเพราะยิ่งอยู่ใกล้กับสองคนนี้ชีวิตจะมีแต่โชคร้ายนะสิ

“อ่าเคๆ งั้นทวนใหม่นะ ข้างซ้ายชื่อทงเฮ ข้างขวาชื่อคยูฮยอน...งั้น...ฉันไปแล้วนะ” เมื่อได้จังวะหลอกล่อ ผมก็รีบลุกพรวดวิ่งหนีออกจากโรงอาหารทันทีโดยที่พวกนั้นได้แต่มองผมด้วยสายตาเคืองๆ แหม๋ใครจะอยู่นานๆ ให้โง่ละครับ อยู่ก็เหมือนตกนรกไม่อยู่ก็ต้องตกนรกแต่ผมเลือกที่จะไม่อยู่ดีกว่าไหนๆ ก็จะต้องรักษาระยะห่างจากไอ้สองคนนั้นแล้วนิ ก็รีบทำซะตั้งแต่ตอนนี้เลยก็แล้วกัน
ขอโทษด้วยนะซองมิน คิบอม ถึงเราจะรู้จักกันไม่นานแต่ไอ้เรื่องหนีตัวใครตัวมันละกันน















แต่เหมือนเทวดาจะไม่เป็นใจให้กับ อี ฮยอกแจผู้นี้เลย ลืมไปเลยว่าเรียนห้องเดียวกันกับไอ้หมาสองตัวนั้นผมทิ้งหัวพลางสไลด์ตัวไปกับพื้นห้องเรียนเหมือนหนอนชาเขียวตัวนึงก็ไม่ปาน ชีวิตมันบัดซบชัดๆ เลยละครับ ให้พบเจอแต่เรื่องเฮงซวย แค่เห็นหน้าไอ้หมาสองตัวนั้นผมก็เอียนจนอ้วกจะแตกออกมาอยู่รอมร่อ ถ้าไม่ติดว่าเสียดายข้าวที่พึ่งกินไปเมื่อตอนเที่ยงนะปานนี้ผมอ้วกใส่หน้าพวกมันละ อยากจะหนีไปจากบรรยากาศอันแสนจะมาคุจริงๆ เลยให้ดิ้นตาย

คงจะคิดกันละสิว่าทำไมผมถึงได้ทำตัวชิลๆ ในห้องเรียนได้แล้วไอ้ยางอายที่ผมเคยเกริ่นไว้แรกๆ อ่ะ อยากจะบอกว่าตอนนี้มันมลายหายไปกับเงินค่าเทอมโรงเรียนนี้แล้วละครับ พรุ่งนี้ผมกะว่าจะหอบหิ้วเอาผ้าห่มกับหมอนมานอนเรียนเลยละ ไหนๆ ก็ได้นั่งเรียนที่ VIP แล้วก็ทำให้มันสุดๆ กันไปเลย

อยู่กับความคิดตัวเองได้ไม่นานเมื่อคยูฮยอนมันทำยางลบหล่นมาทางผม ผมเลือกที่จะใจดีโดยการเก็บยางลบขึ้นมาส่งไปให้ทงเฮที่นั่งเล่นเกมส์บนมือถือในคาบเรียน พอดีขี้เกียจเดินไปที่โต๊ะคยูอะนะโต๊ะทงเฮมันใกล้กว่า = w =

“เสรือก!!” ช่างเป็นคำขอบคุณที่ซึ้งกินใจผมจริงๆ น้ำตาแทบเล็ดกับคำพูดของทงเฮไม่น่าไปทำตัวเป็นคนใจดีเลยเรา ผมถอนหายใจกับสิ่งที่ผมได้กระทำไปเมื่อซักครู่ ผมมองไปทางโต๊ะเรียนของซองมินกับคิบอมคือแอบสำนึกผิดได้นิดๆ อ่ะนะ เรื่องที่ทิ้งสองคนนั้นที่โรงอาหาร

สายตาผมสื่อถามคนทั้งคู่ว่ายังสบายดีกันอยู่ไหม และดูเหมือนเจ้าพวกนั้นจะไม่เข้าใจสายตาที่ผมสื่อไปให้เลยนี่สิให้ตายเหอะ มือเล็กของผมจัดแจงเขียนข้อความในเศษกระดาษที่ผมฉีกมาจากสมุดเรียน แล้วปามันไปที่โต๊ะของซองมิน


‘เมื่อตอนเที่ยงขอโทษนะที่แอบหนีออกมาก่อน โดนพวกมันทำอะไรมาบ้างป่าว :( by รูปหล่อ พ่อไม่รวย พกความซวยมาเต็มกระเป๋า’

ซองมินคลี่เศษกระดาษขึ้นมาอ่านซักแปบนึงแล้วเอามันไปให้คิบอมแทน อย่าบอกนะว่าโกรธผมเข้าให้แล้วนะผมไม่ได้ตั้งใจน้าาา ; w ; คิบอมอ่านข้อความของผมแปบนึงก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาขีดๆ เขียนๆ แล้วส่งไปให้ซองมิน ซึ่งซองมินก็รับมันไปอ่านแปบนึงอะนะแล้วก็จัดแจงเขียนต่อจากคิบอม แล้วปากลับคืนมาให้ผม


‘ไม่เป็นไร... by คิบอมคนหน้าหล่อ’


‘แต่ฉันอะเกือบตาย อยากจะครายเป็นภาษาสเปน T [] T by ซองมินสุดสวยแต่เสรือกอวบ’

ผมอ่านข้อความในเศษกระดาษก็ได้แต่หัวเราะอยู่ในลำคอคือก็อยากจะหัวเราะดังๆ นั้นละนะครับแต่อาจารย์สอนอยู่ผมกลัวเขาจะทำโทษให้ไปยืนอับอายอยู่ประตูหน้าห้องอะไรทำนองนั้นอะนะ อยากจะถามพวกมันสองคนจริงๆ ว่าให้ฉายาที่เขียนๆ มาเนี้ยคิดได้ไงวะอ่านแล้วขำอะ ก็ยังดีนะที่พวกมันสองคนคงไม่ได้โกรธไรผมแค่เคืองนิดๆ อะไรเถือกนั้นละมั้ง


ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้วครับเป็นสิ่งที่บรรดานักเรียนทุกคนต่างถวิลหารวมถึงผมด้วย ดีใจมากครับจะได้กลับบ้านซักทีขืนเรียนนานๆ เท้าผมต้องชักกระตุกไปหาไอ้ทงเฮกับไอ้คยูฮยอนแน่ๆ ก็หลังจากผมหัวเราะคิกคักกับเศษกระดาษที่แลกกันส่งระหว่างผมกับเพื่อนใหม่สงสัยตัวเองไปสร้างความรำคาญให้กับไอ้สองคนนั้นละมั้งครับ มันถึงได้ฉีกเศษกระดาษขึ้นมาปาผมทั้งคาบเรียนเลยนี้สิ


จะปาคืนก็กลัวจะสู้พวกมันไม่ได้มันมีสองผมมีหนึ่งมันไม่แฟร์แบบเห็นกันจะๆ อยู่แล้วละครับ อีกอย่างกลัวไม่จบแค่ปากันไปปากันมานี้สิอาจารย์คงเรียกผมไปทำโทษด้วยมั้ง เพราะทำโทษไอ้สองคนนั้นไม่ได้อยู่แล้วละ


“ฮยอกแจกลับบ้านพร้อมกันป่าว” ซองมินกับคิบอมเดินเข้ามาชวนผมกลับบ้านด้วยกันครับผมละปลื้มใจจริงๆ ที่อย่างน้อยมาเรียนวันแรกก็ได้เพื่อนใหม่ตั้งสองคนถึงจะพ่วงศัตรูมาด้วยอีกสองตัวก็เหอะนะ


“เอาดิเดี๋ยวขอเก็บของแปบนึงนะ” ซองมินพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้แต่ผิดกับคิบอมที่ยืนนิ่งๆ อยู่ข้างๆ ผมละแปลกใจจริงๆ ว่าสองคนนั้นมันสนิทกันได้ไงวะนิสัยนี่คนละขั้วโลกเหนือกันเลย สะบัดหัวให้กับความคิดปัญญาอ่อนของผมแล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายเตรียมตัวกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนใหม่


“ชินยัง” เสียงเรียบๆ ของคิบอมถามผม ผมเลิกคิ้วขึ้นกับคำถามนิดหน่อยคือไม่เข้าใจว่ามันชินเรื่องไหน เรื่องโรงเรียนใหม่ เรื่องไอ้สองคนนั้น หรือว่าเรื่องที่นั่ง VIP ร้อนถึงซองมินต้องเป็นคนขยายความกับคำพูดของคิบอม


“คิบอมมันหมายถึงที่นั่งนายกับเรื่องของ...” ประโยคหลังซองมินเหล่หันไปทางโต๊ะเรียนที่มีทงเฮกับคยูฮยอนยังนั่งจิ้มๆ กับมือถือตัวเองอยู่


“เรื่องที่นั่งอะชิลๆ พรุ่งนี้กะว่าจะเอาผ้าห่มกับหมอนมานอนเรียนเลยด้วย แต่ส่วน...” ผมเงียบกับประโยคคำพูดของตัวเองไปนิดหน่อย ก็แบบไม่อยากให้ไอ้สองคนนั้นมันได้ยินอะนะเดี๋ยวจะไม่ได้กลับบ้าน ผมเลยเอานิ้วชี้ไปที่หน้าผมเองให้ซองมินกับคิบอมดู ทั้งคู่พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ว่าผมนี้ โค -ตะ -ระ จะไม่ชินเลย


ผมซองมินแล้วก็คิบอมเดินคุยกันอย่างออกรสถึงคิบอมจะไม่ค่อยได้พูดก็เหอะนะ ซองมินบอกว่าความจริงแก๊งเขาอะมีเพื่อนอีกคนนึง แต่วันนี้มันไม่ได้มาเรียนเพื่อนคนนั้นเลยพลาดข่าวเด็ดเรื่องผมไป แต่ซองมินเล่าอีกนะว่าเดี๋ยวมันจะไลน์ไปบอกเพื่อนคนนั้น ซองมินบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้หมอนั่นก็มาเรียนแล้วเดี๋ยวจะแนะนำให้ผมรู้จักด้วย ผมก็พยักหน้ารับรู้กับคำพูดของซองมินก่อนที่จะขอปลีกตัวมาทางบ้านของผมเอง

















“กลับมาแล้วคร้าบบ” พูดกับตัวเองไปงั้นละครับบ้านที่อยู่คนเดียวนี่มันชั่งเงียบเหงาจริงๆ ผมจัดแจงถอดรองเท้าก่อนจะโยนกระเป๋าไปแหมะไว้ที่โซฟา วันนี้เหนื่อยจริงๆ กับการไปโรงเรียนวันแรก ผมเดินขึ้นห้องตัวเองที่อยู่ชั้นสองของบ้านก่อนจะล้มตัวลงไปกับเตียงนอนนุ่มๆ


ตรื้ดดดด~

เสียงมือถือผมสั่นมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียน ผมหยิบมันขึ้นมาดูก็เจอกับข้อความในไลน์แชทกลุ่มที่คิบอมส่งมาให้ผม

‘เป็นไงบ้าง’ ผมยิ้มให้กับคำถามที่ถามถึงตัวผม ผมจิ้มๆ คำตอบผ่านมือถือของตัวเองกลับไป

‘ก็โอเค’ ไม่นานก็มีข้อความใหม่เข้ามา เป็นซองมินที่พิมพ์เข้ามาทางไลน์กลุ่ม

‘พรุ่งนี้เดี๋ยวฉันกับคิบอมรอแกที่ป้ายรถเมย์ จะได้แนะนำเพื่อนอีกคนในกลุ่มให้แกด้วย’

‘โอเคเจอกันตอน 7 โมงเช้า’ ผมค่อยๆ หลับตาลงกับข้อความที่ผมส่งไปหาซองมิน ก่อนจะพล่อยหลับไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อาบน้ำ อ่าเรานี่มันชั่งซกมกจริงๆ เลยให้ตายสิ...


To be con.

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

อ่านแล้วช่วยคอมเม้นต์กันนิดนึงนะครับ TT v TT

 
Top