Fiction นี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนการ
โปรดใช้วิจรณญาณในการอ่านงับป๋ม

Title - Help me!! High school boys. ช่วยด้วยครับ โรงเรียนนี้แมร่งเถื่อน
Author - Kapunoii Rate - PG15
Genre - Yaoi Pairing - Hae x Eun
Type - Thailand fic Status - Ending



Chapter 1


“เฮ้อออ~อยากตาย...” ริมฝีปากสีเชอร์รี่ของคนตัวบางบ่นขมุบขมิบออกมาเบาๆ อยู่ภายในห้องเรียนที่ต่อให้ถามคนทั้งร้อยว่านี้มันห้องเรียนหรือดงนรกคงจะมีแต่คนเต็มใจตอบว่ามันคือดงนรกกันครบร้อยคนชัวร์ๆ

เสียงดังแซงแซ่ที่มีแต่สัตว์เลื้อยคลานพ่นออกมาจากปากแต่ละคนไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยพูดหรอกน่ะ แต่นี้มันก็เกินไปสรรหาสัตว์ตัวใหม่มาได้เรื่อยๆ แถมยังข้ามหัวเขาไปมาอีก หรือไม่ก็นักเรียนที่มีบรรยากาศกดดันอยู่ทั่วห้อง ที่ดูแล้วจะมีเจ้าตัวนั่งตั้งใจเรียนอยู่คนเดียว

มีอาจารย์ก็เหมือนไม่มีนั้นล่ะ นักเรียนแต่ละคนก็ไม่เห็นมันจะเห็นหัวอาจารย์เลยสักคน ทั้งๆ ที่ยืนหัวล้านจนแสบตาอยู่หน้าห้องเรียน ดูก็รู้แล้วว่าไม่ต้องมาเรียนก็จบได้ชิลๆ แต่แม่ไม่เคยจะเข้าใจเขาเลย จะหันซ้ายแลขวาก็ไม่มีนักเรียนหญิงสักคนให้คนตัวบางรู้สึกมีกระจิตกระใจที่อยากจะมาเรียนอยู่บ้างสัก 1% ก็ยังดี

มีสาวๆ มาเรียนก็แปลกล่ะ ก็นี่มันโรงเรียนชายล้วนของพี่ชายเขานิ

นั่งเท้าคางเหม่อออกไปที่นอกหน้าต่าง สิ่งที่อาจารย์สอนไม่เข้าสมองเขาเลยแม้แต่น้อย ถึงไม่จดก็รู้เรื่องหมดแล้วโรงเรียนบ้าไรเล่นเอาวิชาของเด็กประถมมาสอนเด็กม.ปลาย อย่างเขา ร่างบางพลันนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อวันสองวันก่อนที่ทำให้ตัวเขาต้องมาตกระกรรมลำบากอยู่ในนรกของรั้วโรงเรียนแห่งนี้แล้วก็ยังช้ำใจไม่หาย











“ฮยอกแจแม่มีเรื่องด่วนจะบอกลูก” ผู้มีศักดิ์เป็นแม่เอ่ยพูดกับลูกตัวเองอย่างร้อนใจ

“ฮะ? มีเรื่องอะไรหรอครับแม่” ฮยอกแจถามผู้เป็นแม่กลับ มือบางจัดแจงทาแยมสตอเบอร์รี่ที่ขนมปังไปด้วยอย่างใจเย็น

“ลูกก็รู้ใช่ไหมว่าอึนฮยอกพี่ชายลูกหายตัวจากบ้านไปเมื่อสามวันก่อนน่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้าอย่างรับรู้ มีหรือจะไม่รู้ก็พี่ชายฝาแฝดเขาจู่ๆ ก็หายไปแถมทิ้งไว้แค่เศษกระดาษกับลายมือขี้กากไว้ที่โต๊ะทานข้าวของครอบครัวเขา เนื้อหาใจความก็ไม่มีอะไรมากก็แค่...

‘ไม่ต้องตามหาผมน่ะ แบบว่าอยากจะออกไปผจญภัยในโลกกว้างดูสักหน่อยน่ะครับ’

‘Ps. ถ้าป๋ากับม๋าจับผมกลับมาบ้านได้ ผมจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี...ล่ะมั้งน่ะ’

เนื้อหาในใจความของเศษกระดาษที่เขียนด้วยลายมือขี้กากแทบจะทำให้คนเป็นพ่อของเขาขยี้แล้วปามันทิ้งเสียตรงนั้น

‘แบบว่าลายมือมันทำให้พ่ออ่านไม่ออกอ่ะ = A =

ก็รู้อยู่ล่ะน่ะว่าพี่ของเขามันเป็นคนแบบนี้ แต่แทนที่จะเขียนอะไรซึ้งๆ ก่อนจะหนีออกจากบ้านไม่มีหรอก เห็นแล้วก็สงสารคนเป็นพ่อเป็นแม่ของตัวเองอย่างอดไม่ได้

“อ่าฮะ” ขานรับคำถามจากผู้เป็นแม่ก่อนจะหยิบขนมปังที่เจ้าตัวทาแยมสตอเบอร์รี่เสร็จยัดเข้าปากอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

“แม่จะให้เราย้ายไปเรียนที่โรงเรียนพี่ชายเราแทน” ผมสตั้นไป 3 วิกับคำพูดของคุณแม่ก่อนจะ...

พรูดดดด!!

“แค่กๆ แม่ว่าอะไรนะฮะ จะให้ผมไปเรียนที่โรงเรียนไอ้พี่บ้านั้นอ่ะน่ะ” ร่างบางสำลักขนมปังทาแยมกับคำพูดของผู้เป็นแม่อย่างช่วยไม่ได้ มือไม้ปัดป่ายเช็ดปากอย่างทุลักทุเลจนคนเป็นพ่ออดจะหยิบกระดาษทิชชู่ส่งไปให้ลูกตัวเองเช็ดไม่ได้เพราะมันดูทุเรสเกิ๊น โบราณเขาว่าห้ามคุยเรื่องตลกตอนกินข้าว ตอนนี้เขารู้ซึ้งแล้วว่าผลสุดท้ายมันจะเป็นยังไงแถมเรื่องนี้เขาไม่ตลกด้วยหรอกน่ะ

‘ถึงจะเป็นแม่ก็ล้อเล่นให้มันมีขอบเขตหน่อยเหอะ!

“ใช่แล้วล่ะ ลูกก็รู้นิว่าถ้าพี่ของเราเขาเรียนไม่จบมันจะเป็นยังไง” เรียนไม่จบก็หมดอนาคตไงครับแม่ ก็อยากจะสวนคำนี้ไปหรอกนะแต่ติดที่ว่ากลัวโดนโบกเข้าที่หัวทุยๆ ของตัวเองเนี้ยแหละมือของแม่เบาซะที่ไหนล่ะ

“โห่แม่โรงเรียนของพี่เขาไม่ต้องเรียนก็จบได้อยู่แล้วล่ะ” เขากับพี่ชายเรียนคนละโรงเรียนตั้งแต่ขึ้นชั้นมัธยมปลาย เนื่องจากพี่ชายเกเรียนตั้งแต่ตอนมัธยมต้นจึงทำให้เจ้าตัวไม่สามารถเข้าเรียนที่โรงเรียนระดับกลางหรือสูงได้ จึงต้องเลือกโรงเรียนที่มีระดับต่ำเท่าหัวสมองเม็ดถั่วเขียวของเจ้าตัว

แต่พี่ชายของเขาดันไปเลือกเรียนโรงเรียนผิดหรือจงใจก็ไม่รู้ดันเลือกที่โค-ตะ-ระต่ำกว่าโรงเรียนระดับปกตินี้สิ มันเป็นโรงเรียนของพวกเด็กเลวๆ โดยสมบูรณ์แบบและเขาก็ไม่อยากที่จะเฉียดเข้าไปใกล้แม้แต่น้อยแบบกลัวไม่รอดกลับมาอ่ะ

“ถ้ามันทำแบบนั้นได้แม่จะมาขอให้ลูกเรียนแทนหรอ?” อยากจะถามลูกตัวเองเหลือเกินว่าแกล้งโง่หรือโง่จริงกันแน่

“แต่แม่แล้วโรงเรียนที่ผมเรียนล่ะ ผมจะไม่เสียการเรียนเอาหรอ?” เถียงผู้เป็นแม่ออกไปอย่างช่วยไม่ได้ ก็ไม่อยากไปเรียนจริงๆ นี่หว่าให้ทำไงอ่ะ

“อันนั้นไม่ต้องเป็นห่วงแม่ทำเอกสารยื่นเรื่องขอดรอปแบบไม่มีกำหนดไว้แล้ว” ร่างบางนั่งอ้าปากค้างกับการกระทำของผู้เป็นแม่ ไม่ถงไม่ถามสุขภาพตัวเขาสักคำว่าอยากทำไหม นี้เล่นจัดการมัดมือชกเสร็จสรรพขนาดนี้แล้วจะหาข้ออ้างยังไงล่ะ

เมื่อเถียงแม่ไม่ชนะเจ้าตัวจึงหันไปออดอ้อนผู้เป็นพ่อที่นั่งเงียบฟังสองแม่ลูกพูดโต้ตอบไปมาได้สักพักแล้ว

“พ่อคร้าบบบ พ่อดูแม่ดิ” ทำสายตาออดอ้อนอย่างน่าสงสาร ถ้าคนทั่วไปเห็นคงไม่รอช้าเข้ามาปลอบเอาใจคนหน้าหวานตรงหน้าเป็นแน่

“คือพ่อ...” ในใจก็อยากจะช่วยเจ้าลูกชายตัวแสบคนนี้อยู่หรอก แต่พอเหลือบไปเห็นภรรยาที่นั่งข้างๆ ที่คอยส่งสายตาและรังสีกดดันอยู่ด้านข้างแล้วก็ต้องจำยอมไปโดยปริยาย

พ่อขอโทษนะลูก พอดีในบ้านนี้แม่แกใหญ่สุดอ่ะ ( ; w ; )

“พ่อช่วยเราไม่ได้หรอกนะฮยอกแจ ถือว่าทำบุญให้หมามันแล้วกันเนอะ” หมาในที่นี้ก็พี่ชายคนโตของบ้านหรือก็คืออึนฮยอกที่หนีออกนอกบ้านไปนั้นล่ะ

เมื่ออ้อนใครไม่สำเร็จดังเป้าหมายเจ้าตัวก็คงได้แต่ต้องจำยอมกับเหตุการณ์ข้างหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใบหน้าหวานงอง้ำ ดวงตาที่เคยสุกสกาวตอนนี้กลับมีน้ำบริสุทธิ์ปริ่มที่หางตาสวยภายในใจร่างบางทั้งกร่นด่าทั้งสาปแช่งพี่ชายตัวเอง ที่เป็นฝาแฝดกันแต่นิสัยดันเหมือนหน้ามือกับหลังตรีนซะเหลือเกิน

“แม่ไม่ให้เราเรียนยันจบหรอกนะฮยอกแจ ก็เข้าเรียนจนกว่าจะตามตัวพี่ชายเรากลับมาได้นั้นล่ะ” เอ่ยพูดเหมือนให้ความหวังที่ดูจะเลือนลางให้กับคนเป็นลูก ขาบางของแม่เดินเข้าไปสวมกอดลูกชายที่นั่งอยู่โต๊ะตรงข้าม มือบางที่แสนอุ่นพลางลูบหัวเล็กปลอบใจคนเป็นลูก คนเป็นแม่ก็ต้องคิดถึงอนาคตของลูกๆ ที่ตนรักอยู่แล้ว และนี้ก็คาดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งอึนฮยอกและฮยอกแจ

“แล้วถ้าตามไอ้พี่บ้ากลับมาไม่ได้ล่ะ...ครับ” เอ่ยถามอย่างหมดแรงจะดิ้นรนกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น  ความหวังของแม่ที่พูดปลอบใจมันดูจะริบหรี่ซะเหลือเกิน ผู้เป็นแม่ไม่ได้ตอบอะไรออกมาเพียงแต่ยื่นนิ้วโป้งและนิ้วก้อยออกมาเพื่อรอให้คนในอ้อมกอดยื่นสัญลักษณ์แห่งคำมั่นสัญญาตอบกลับมาหาตน

และเราก็ดันบ้าจี้สัญญาตอบ อยากจะครายเป็นภาษาไทย TT ^ TT




“อ่าา~ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว นอนดีกว่า” ฮยอกแจเอาหน้าฟุบลงกับโต๊ะเรียนที่มีข้อความด่าทอต่างๆ ซึ่งเขียนด้วยปากกาเมจิกอยู่เต็มโต๊ะไปหมด ร่างบางพยายามทำตัวให้ไม่เป็นที่สนใจของห้องเรียน ยิ่งทำให้เหมือนเป็นอากาศธาตุได้จะดีที่สุดสำหรับโรงเรียนแบบนี้ การนอนจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ไม่อยากเป็นปัญหากับพวกนักเลงในโรงเรียนนี้

“อื้อ~” เสียงครางอื้ออึงดังขึ้นมาจากปากสีเชอร์รี่ของร่างบาง แก้มใสถูกนิ้วหนาของบุคคลปริศนาจิ้มเล่นอยู่นานโข เมื่อเจ้าคนที่หลับไม่มีทีท่าว่าจะตื่นแต่อย่างใด เรียกก็แล้ว เขย่าก็แล้ว เลยหันมาจิ้มแก้มนุ่มของคนตรงหน้าแทนดีกว่าเพลินนิ้วดี

“อึนฮยอกมันไม่ตื่นหรอว่ะไอ้ทงเฮ” เสียงของบุคคลมาใหม่อีกคนดังขึ้น กระเป๋านักเรียนแฟ๊บๆ ถูกโยนลงไปที่โต๊ะของเจ้าตัว มืออีกข้างที่ถือไม้เบสบอลเข้ามาเป็นอันต้องเอามันไปวางไว้ข้างโต๊ะเรียนก่อนที่บุคคลที่สองจะเดินเข้าไปนั่งประจำที่

“ยังว่ะไอ้คยู นี้กูก็ปลุกมันมานานแล้ว” ร่างหนาเจ้าของชื่อตอบคยูเพื่อนของตนที่พึ่งเข้าไปนั่งโต๊ะเรียน นิ้วหนาก็ยังไม่เลิกจิ้มแก้มใสของคนข้างๆ แต่อย่างใด

“เพลินเลยนะมึง จิ้มแก้มมันแล้วสนุกยังไงว่ะ” คยูหรือคยูฮยอนจัดการหันตัวกลับหลังมานั่งพาดเก้าอี้นักเรียนถามทงเฮ แบบว่าขี้เกลียดหันหน้ามาคุยกับมันอ่ะน่ะ เมื่อย!

“ไม่รู้วะ อยู่ๆ กูก็อยากจิ้ม วันนี้หน้าไอ้อึนฮยอกมันไม่เหมือนปกติว่ะ” พลางขยับหัวหันซ้ายขวาสำรวจใบหน้าของคนที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะอย่างพิจารณา

“ยังไงว่ะ ก็แค่ทรงผมมันเปลี่ยนแค่นั้นเอง ไอ้ทงเฮมึงคิดมากว่ะ” คยูฮยอนตบบ่าเพื่อนอย่างไม่ใส่ใจนัก เพราะไม่ว่าเขาจะดูมุมซ้าย มุมขวา หน้าหรือหลังแมร่งก็เหมือนเดิมหมดนั้นล่ะ เปลี่ยนก็แค่สีผมของคนตรงหน้าเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนอย่างพวกเขาจะเปลี่ยนสีผมกันเป็นว่าเล่นเหมือนกับตัวเองเป็นเจ้าของโรงงานผลิตที่เปลี่ยนสีผมที่ขายกันตามห้างทั่วไป

“มึงแต่กูว่า...” พูดยังไม่ทันจบคนที่ฟุบอยู่บนโต๊ะข้างๆ ทงเฮก็ตื่นขึ้นเพราะเสียงสนทนาของทั้งคู่มันหนวกหูเกินกว่าจะข่มตาหลับต่อ ทงเฮยื่นหน้าไปใกล้ร่างบางที่พึ่งสลึมสลือ ปรือตามาได้แปบเดียวก็ต้องใช้มือบางขยับถูเพื่อปรับโฟกัสภาพของสายตา

“หือ...อ้ากกกกกกกกกก!!!” เสียงของฮยอกแจวีดร้องอย่างตกใจ จะไม่ให้ตกใจได้ไงในเมื่อลืมตามาก็เจอใครไม่รู้ที่เสรือกหล่อเหมือนทวยเทพส่งมาเกิดซะจนคนอย่างเขายังอดอิจฉาไม่ได้ โรงเรียนนรกๆ แบบนี้ยังเสรือกมีคนหล่อมาเรียนอีกแถมหล่อกว่าเขาซะด้วย

ดาวรับไม่ด้ายยยย!!!

“อ้ากกกกกกกกกกก!!” คนข้างๆ ก็ตกใจไม่แพ้กันแต่คนละประเด็นกับร่างบาง ก็ที่เขาร้องลั่นเพราะตกใจคนตัวบางข้างๆ กรี๊ดนี้ล่ะเลยแหกปากกรี๊ดตาม ใจหายใจคว่ำหมดเลยเล่นกรี้ดเข้าหน้าขนาดนี้ไม่ถมน้ำลายใส่ด้วยเลยล่ะเฟ้ย

“โอ้ยกูแสบแก้วหู ไอ้เหี้ยกรี๊ดกันทำส้นตรีนไรว่ะ ขี้หูกูเต้นเป็นเพลง sory sory ไปหมดล่ะ! ไอ้ทงเฮ ไอ้อึนฮยอก” คยูที่เอามือปิดหูไม่ทันก็ต้องหันมาโวยไอ้สองคนนี้แทน ไม่รู้จะกรี๊ดแข่งกันทำห่าไร

กูไม่ได้กรี๊ดแล้วกูอิจฉา คือกูอยากมีส่วนร่วมไง

“ก็ไอ้เหี้ยอึนฮยอกแมร่งกรี๊ดก่อน กูตกใจก็เลยกรี๊ดตาม” ทงเฮชี้นิ้วมาทางฮยอกแจที่ตอนนี้ดูเหมือนเจ้าตัวกำลังมึนงงกับประโยคสนทนาของคนทั้งคู่ ถ้าจะบอกว่าเขาไม่รู้จักชื่อไอ้สองคนนี้ เขาจะผิดป่ะ?

“แล้วมึงกรี๊ดห่าไรว่ะไอ้อึนฮยอก” คยูหันมาคาดโทษฮยอกแจที่เจ้าตัวตอนนี้ต้องสวมบทเป็นพี่ชายตัวเองอย่างช่วยไม่ได้

“ก็ฉัน...เอ้ยกูตกใจ...ที่...เอ่อ” ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยพูดคำหยาบน่ะ พูดจนติดปากไปแล้วด้วยซ้ำแต่เพราะว่าเขาไม่สนิทชิดเชื้อกับคนที่เขาไม่รู้จักจึงทำให้ต้องพูดผิดๆ ถูกๆ

ฮยอกแจพูดติดขัดเพราะมัวแต่ลนลานที่จำชื่อของคู่สนทนาไม่ได้ สายตาของร่างบางกรอกล่อกแล่กไปมาเหมือนเด็กน้อยทำความผิดแล้วถูกคุณครูจับได้แต่ผิดกันตรงที่คุณครูคนนั้นกลับเป็นคนหล่อทั้งสองคนแถมแมร่งทำหน้าโหดกว่าคุณครูที่โรงเรียนเขาอีก

อย่าจ้องกูเยอะเดี๋ยวกูงอแงTT^TT

สายตาของคนทั้งคู่มองฮยอกแจอย่างจับผิด เหงื่อเม็ดน้อยเริ่มผุดออกมาบริเวณใบหน้าหวานอย่างประปราย อยากจะตะโกนใส่หน้าไอ้สองคนที่นั่งจับผิดเขาอยู่เหลือเกินว่าจะจ้องหน้าหาพี่หรอ แต่ถ้าทำไปชะตากรรมอาจจะไม่แคล้วเป็นผีเฝ้าโรงเรียนวันแรกก็เป็นได้

“มัวแต่อ้ำๆ อึ้งๆ แล้วกูกับไอ้ทงเฮมันจะรู้เรื่องไหม” เหมือนมีพระเจ้ามาช่วยชีวิต เมื่อชายตรงหน้าพูดชื่อคนข้างๆ ขึ้นมา อยากจะเข้าไปกระโดดกอดคอแน่นๆ สักทีสองทีที่ทำให้ชีวิตเขาไม่ต้องติดอ่างแบบนี้อีกต่อไป

“ก็กูตกใจที่ไอ้ทงเฮแมร่งยื่นหน้ามาใกล้ เข้าใจป่ะว่ากูพึ่งตื่น แหกขี้ตาตื่นมาก็เจอหน้าแมร่งเลย” ฮยอกแจพูดจาฉะฉานขึ้นเหมือนคนรู้หน้าที่จนทำให้ทั้งทงเฮและคยูฮยอนพยักหน้ารับเป็นการเข้าใจคำแก้ต่างของคนตัวบาง

“แล้วเมื่อกี้ทำไมมึงไม่รีบพูดว่ะ มัวแต่อ้ำๆ อึ้งๆ ทำเป็นติดอ่างอยู่ได้ ก็กูลุ้นคำพูดมึงจนปวดตดหมดแล้วเนี้ย” คยูฮยอนพยักหน้ารับเห็นด้วยกับคำพูดของทงเฮ อยากจะบอกว่ากูอั้นมานานแล้วขอกูตดสักหน่อยเหอะ

ปรู้ดดดด!!

“อ้ากกกกกก มึงทำเหี้ยไรของมึงนิไอ้คยู แมร่งอุบาทว์” ทงเฮยืนขึ้นถอยห่างออกมาจากโต๊ะรวมไปถึงฮยอกแจที่ต้องรีบลุกขึ้นเดินหนีทันที ส่วนคนอื่นๆ ในห้องจากที่ส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวายต่างก็ต้องหยุดการกระทำแล้วทำหน้าสำรอกอยากอ้วกเอาข้าวเช้าออกมาซะจริงๆ

เหม็นเหี้ยๆ

To be con.


เสร็จแล้วนะครับสำหรับฟิคตอนที่ 1
ของเรื่อง ช่วยด้วยครับ! โรงเรียนนี้แมร่งเถื่อน
ซึ่่งอ่านแล้วยังหาสาระไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
สำหรับคนที่ชื่นชอบคยู ผมขอโทษด้วยน้าาา ; w ;
ชอบไม่ชอบก็เม้นบอกกันได้นะครับ 

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

อ่านแล้วช่วยคอมเม้นต์กันนิดนึงนะครับ TT v TT

 
Top