Fiction นี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนการ
โปรดใช้วิจรณญาณในการอ่านงับป๋ม

Title - Help me!! High school boys. ช่วยด้วยครับ โรงเรียนนี้แมร่งเถื่อน
Author - Kapunoii Rate - PG15
Genre - Yaoi Pairing - Hae x Eun
Type - Thailand fic Status - Ending



Intro


“เห้ยพวกมึงอ่ะเร็วๆ ดิว่ะ วันนี้ไอ้ทงเฮแมร่งเรียกไปไฝว้กับโรงเรียนสห!!” เสียงของนักเรียนชายที่ไม่รู้จักดังขึ้นมาตามทางด้านหลังของร่างบาง เจ้าตัวสะดุ้งโหยงเมื่อคล้อยเสียงที่ดังเข้ามาในโสทประสาทไม่นานก็มีนักเรียนกลุ่มใหญ่ๆ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ในมือบางคนก็ถือไม้หน้าสาม บางคนก็ไม่ที ไม้เบสบอลก็ยังมี ดีไม่ดีอาจจะมีมีดหรือปืนพกติดตัวไว้ด้วยวิ่งมาเป็นฝูงผ่านร่างบางไป

“เฮือก!!” คนตัวบางสะดุ้งโหยงแถมหลับตาปี๋ทันที เมื่อนักเรียนหรือจะเรียกว่านักเลงก็ดีสำหรับโรงเรียนที่ขึ้นชื่อว่านรกที่สุดในกรุงโซลวิ่งผ่านหน้าไปทิ้งไว้แค่ฝุ่นที่ตลบอบอวลฟุ้งไปทั่วอาณาบริเวณร่างบาง

“นี้เราต้องมาเรียนที่โรงเรียนแบบนี้จริงดิ” ความเศร้ายังไม่ทันจะหายไปความกลัวก็เข้ามาแทนที่ พลันปลอบใจตัวเองตลอดทางที่เดินเข้ามาในโรงเรียนแห่งนี้ ขาที่สั่นเทาก็พยายามย่างก้าวพาร่างกายที่อ่อนปวกเปียกไปให้ถึงจุดหมายโดยไว

ไอ้ขาไม่รักดีรีบๆ เดินไปห้องผู้อำนวยการไวๆหน่อยสิเฟ้ย!

สายตาที่สั่นระริกเหมือนลูกนกปีกหักที่ไม่มีทางจะหนีรอดออกจากกรงต้องรีบจ้ำอ้าวให้ไวกว่าเดิม เมื่อเจ้าตัวได้ยินเสียงฝีเท้านับไม่ท้วนดังมาจากทางด้านหน้าของตัวเองเป็นหนที่สอง

เอาอีกแล้วหรอว่ะเนี้ย

ร่างบางที่บีบสายเป้ที่สะพายอยู่แน่นมือเหมือนเอากาวตราช้างมาแปะยึดไว้ พยายามทำตัวให้ลีบและจืดจางที่สุดเสมือนเป็นอากาศธาตุได้ยิ่งดี ปากบางสีเชอร์รี่ถูกเม้มแน่นเข้าหากันอย่างรู้เวลา ดวงเนตรที่เคยหวานใสเหมือนอัญมณีเม็ดงามพยายามฝืนใจข่มให้มันปิดลง ใบหน้าขาวละเอียดราวหิมะที่เคยเชิ่ดขึ้นก่อนหน้านี้ถูกทดแทนเข้าด้วยบริเวณอกบางที่ก้มจนเกือบจะจมลงไปของเจ้าตัว ยอมรับเลยว่าคนตรงหน้านี้ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาดูสถานการณ์ชวนเสียววาบตรงหน้านี้แม้แต่น้อย

ถ้ามีพลังวิเศษจะขอให้ตัวเองวาบไปอยู่หน้าห้องผู้อำนวยการให้รู้แล้วรู้รอด

“ไอ้เหี้ยทงเฮแมร่งต่อยกันที่ไหนว่ะ!” ชื่อที่เคยคุ้นหูของขบวนนักเลงรอบที่แล้วดังเข้าโสทประสาทหูบาง พาลนึกไปถึงชื่อที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาของนักเลงหัวไม้ทั้งสองกลุ่มที่ได้ยิน

“มันอยู่ที่โรงเรียนสหแล้ว! ไอ้บ้านั้นแมร่งเล่นพุ่งไปเดี่ยวๆ คนเดียว ไอ้ทงเฮแมร่งก็เลือดร้อนไม่เคยเปลี่ยนอ่ะ” เสียงของคนข้างๆ ที่วิ่งคู่มากับคนถามเอ่ยตอบ

ชื่อนี้อีกแล้วหรอ กลุ่มที่แล้วมันก็พูดถึงคนๆ นี้ ไอ้หมอนี้คงจะมีอิทธิพลต่อโรงเรียนนี้พอดู ไม่แน่อาจจะเป็นคนคุมโรงเรียนนี้ก็ได้...ฮ่าๆๆ บ้าน่าไม่มีทางเป็นไปได้หรอกคิดอะไรบ้าๆ กันอยู่นะเรา

ร่างบางได้แต่เก็บคำสงสัยของตัวเองเอาไว้ในใจ เมื่อเสียงฝีเท้าเริ่มจางลงจนหายไปร่างบางค่อยๆ ลืมตาขึ้นในที่สุด

“ฟู่~มันจะอะไรกันนักหนาว่ะ ไอ้โรงเรียนเส็งเคร็งแบบนี้น่ะ!” ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน แค่เข้ามาแนะนำตัววันแรกยังน่ากลัวและถ่อยขนาดนี้ แล้วนี่ตัวเขาจะทนอยู่ได้หรอแถมไม่รู้ว่าจะต้องทนไปถึงเมื่อไหร่

“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันไหมว่ะ?” ได้แต่ตั้งคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบกับตัวเอง ขาบางหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องของผู้อำนวยการโรงเรียนแต่เจ้าตัวก็ยังไม่กล้าที่จะเปิดประตูเข้าไปข้างใน ได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่ที่บานประตูใหญ่ตรงหน้า ใจนึงก็อยากที่จะเดินหนีออกไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด แต่อีกใจกลับหักห้ามไว้ไม่ให้ทำอย่างที่คิด ความสับสนวุ่นวายอยู่ที่บานประตูใหญ่ที่แค่เอื้อมมือออกไปก็จะเจอกับคนที่เขาจะมาพบแล้ว แต่ขาเจ้ากรรมมันไม่อยากจะเดินเข้าไปนี่สิ มือเล็กๆ ขยุ้มที่ผมสีทองราวกับแพรไหมจนมันฟูไม่เป็นทรง ก่อนจะตัดสินใจในสิ่งที่สมควรทำที่สุดสำหรับเวลานี้

เอาว่ะ!! เป็นไงเป็นกัน

ผลั่วว!!

บานประตูบานใหญ่ตรงหน้าบัดนี้ถูกเปิดออกมาด้วยมือเล็กของร่างบาง เผยให้เห็นถึงบุคคลที่เป็นเจ้าของโรงเรียนซึ่งนั่งอยู่ด้านใน ใบหน้าที่เหี่ยวย่นตามวัยของชายตรงหน้าเงยใบหน้าขึ้นมาจ้องมองที่ร่างบาง เอกสารที่เคยตรวจเช็คเมื่อครู่ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะไม้ราคาแพงอย่างดี ไม่มีการเอ่ยติติงเรื่องมารยาทของร่างบางที่ทะเล่อทะล่าเข้ามาโดยไม่เคาะประตูเสียก่อน มือใหญ่ที่มีรอยย่นเผยออกเชิญให้คนตัวเล็กเดินมานั่งที่โซฟาตัวหรู

“นั่งลงก่อนสิ” เสียงทุ่มนุ่มเอ่ยชักชวนร่างบาง เจ้าตัวจึงค่อยๆ เดินเข้ามานั่งลงบนโซฟานุ่มตามคำเชื้อเชิญ สายตาคู่สวยหันมองรอบๆ ห้องอย่างพิจารณา ภายในห้องของบุคคลตรงหน้าคงจะดูดีที่สุดสำหรับโรงเรียนแบบนี้เลยก็ว่าได้

ห้องที่ดูสะอาดสะอ้านผิดจากบริเวณโรงเรียนอย่างสิ้นเชิง แต่จะผิดแปลกจากโรงเรียนอื่นสักเล็กน้อยก็ตรงที่ไม่มีแม้แต่ถ้วยรางวัล หรือแม้แต่ใบประกาศเกรียติคุณที่ต้องใส่กรอบหรูหราเหมือนกับสถาบันต่างๆ สำหรับโรงเรียนแบบนี้ถ้ามีนี่มันโครตจะแปลกเลยล่ะ

ถ้าเลือกห้องเรียนได้เขาจะเรียนอยู่ที่ห้องนี้ไปตลอดแทนห้องเรียนจากนอกประตูบานนี้แน่นอน เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านั่งเงียบจมกับความคิดของตัวเองมาสักพักแล้ว ตัวเขายังไม่มีการเอ่ยแนะนำตัวแต่อย่างใดให้กับบุคคลตรงหน้านี้เลย ร่างบางจึงรีบลุกขึ้นยืนโค้งตัวกล่าวแนะนำตนกับบุคคลที่มีศักดิ์เป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียนก่อนที่จะต้องคุยธุระต่างๆ อีกมากมายที่เจ้าตัวถ่อสังขารฝ่าดงตรีนมาในวันนี้

“ผมอีฮยอกแจ มาเรียนแทนพี่ชายอึนฮยอกอย่างไม่มีกำหนดครับ!!”  

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

อ่านแล้วช่วยคอมเม้นต์กันนิดนึงนะครับ TT v TT

 
Top